จัดฟันแบบเซรามิก
จัดฟันแบบเซรามิก กับศูนย์ทันตกรรมทันตกิจ ดูแลทันตแพทย์โดยผู้เชี่ยวชาญ
การจัดฟันแบบเซรามิก คือ 1 ในวิธีจัดฟันแบบมีเครื่องมีประเภทหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ด้วยพื้นฐานการจัดฟันที่ไม่ยุ่งยากมีความค่อยเป็นค่อยไป เครื่องมือมีการพัฒนาวัสดุตามเทคโนโลยีอยู่เสมอเพื่อความสะดวกของผู้ใช้งาน และที่สำคัญมีราคาค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการจัดฟันแบบโลหะ แต่ไม่เท่าการจัดฟันประเภทอื่น ๆ
จัดฟันแบบเซรามิก (Ceramic Bracket)
การจัดฟันแบบนี้มีข้อดีคือเครื่องมือจะมีลักษณะโปร่งแสงซึ่งจะมองเห็นได้ยากกว่าเหมาะสำหรับผู้ทีไม่ต้องการให้ผู้อื่นเห็นอย่างเด่นชัดว่าจัดฟันอยู่ แต่ก็ยังสามารถเห็นได้บ้างเนื่องจากเครื่องมือยังติดอยู่ที่ด้านนอกของฟันอยู่ ระยะเวลาการพบทันตแพทย์เหมือนการจัดฟันแบบโลหะ แต่การจัดฟันเซรามิก มีราคาสูงกว่าการจัดฟันแบบเหล็กทั่วไป
ข้อดีของการจัดฟัน
1. ฟันเรียงตัวสวยขึ้น มีรอยยิ้มที่สวยงาม
2. เสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีขึ้น และเพิ่มความมั่นใจ
2. เพิ่มประสิทธิภาพในการสบฟันที่ดีขึ้น และการเคี้ยวอาหารได้ดีกว่าเดิม
3. สุขภาพปากและฟันดีขึ้น การทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง ฟันผุน้อยลง
4. ช่วยลดกลิ่นปาก ง่ายต่อการทำความสะอาดฟัน
5. การจัดฟันทำให้รูปหน้าเปลี่ยนไป (ขึ้นอยู่กับบุคคล)
ข้อเสียของการจัดฟัน
1. รู้สึกไม่สบายปากในช่วงแรกที่จัดฟัน มีอาการตึงและเจ็บที่ฟันในระหว่างจัดฟัน เกิดจากการเคลื่อนของฟัน
2. ระหว่างที่จัดฟัน ทำความสะอาดฟันยากขึ้น อาจทำให้ฟันผุและมีกลิ่นปากได้
3. หลังจัดฟันเสร็จแล้ว จะต้องใส่รีเทนเนอร์ตามคำแนะนำของทันตแพทย์จัดฟัน
4. การพูดหรือการออกเสียงอาจไม่ชัดเจนบ้าง
5. ใช้เวลา 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับความผิดปกติของแต่ละบุคคล และต้องพบทันตแพทย์บ่อย ยกเว้นการจัดฟันแบบใสอินวิสไลน์ Invisalign
6. อาจมีค่าใช้จ่ายสูง
ควรเริ่มจัดฟันตั้งแต่อายุเท่าไร
การจัดฟันนั้นสามารถทำได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ผู้ป่วยควรได้รับการตรวจการสบฟันจากทันตแพทย์ทั่วไป และได้รับการส่งต่อมายังหมอจัดฟันทันที ที่สังเกตุพบปัญหาการสบฟัน การจัดฟันส่วนใหญ่มักเริ่มทำในเด็กมีฟันแท้ขึ้นเกือบครบ คืออายุประมาณ 11-13 ปี อย่างไรก็ตามการแก้ไขปัญหาการสบฟันบางอย่างสามารถทำได้ในช่วงฟันแท้ขึ้นผสมกับฟันน้ำนมเพื่อลดความรุนแรงของปัญหา หรือเพื่อป้องกันการไม่ให้เกิดการพัฒนาไปเป็นความผิดปกติที่มีความรุนแรงขึ้น เช่นการจัดฟันหน้าบางส่วนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุกระทบกระแทกต่อฟันในกรณีที่ฟันหน้าบนยื่นมาก ๆ การจัดฟันในชุดฟันผสมมักเป็นการรักษาระยะสั้น และเป็นการจัดฟันบางส่วนเท่านั้น เมื่อผู้ป่วยเข้าสู่ระยะฟันแท้ ส่วนใหญ่จะจำเป็นต้องได้รับการจัดฟันทั้งปากต่อไป
ข้อควรปฏิบัติในระหว่างการจัดฟัน
1. การติดเครื่องมือจัดฟันจะทำให้มีเศษอาหารติดที่ฟันได้ง่ายรวมไปถึงการทำความสะอาดฟันจะมีความยากลำบากมากขึ้น ผู้ที่จัดฟันจึงต้องเพิ่มความละเอียดในการทำความสะอาดฟันรวมไปถึงการใช้อุปกรณ์เสริมเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดฟันผุ
2. ควรรับประทานอาหารที่เคี้ยวง่ายเพื่อป้องกันเครื่องมือจัดฟันเสียหาย หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีลักษณะแข็งและเหนียว เพราะนอกจากจะทำให้เหล็กจัดฟันเสียหายแล้ว อาจจะทำให้ปวดฟันอีกด้วย ควรใช้ฟันกรามเคี้ยวอาหารจะช่วยบรรเทาอาการปวดฟันได้
3. ควรไปพบทันตแพทย์ตามนัดเป็นประจำ เนื่องจากการขาดความต่อเนื่องในการรักษาจะทำให้ระยะเวลาในการจัดฟันนานขึ้น รวมไปถึงผลลัพธ์ของการรักษาอาจไม่เป็นไปตามที่วางใว้อีกด้วย
จัดฟันแบบเซรามิกดีกว่าการจัดฟันทั่วไปอย่างไร
โดยพื้นฐานของการจัดฟันแบบเซรามิก มีการทำงานแบบเดียวกับการจัดฟันโลหะ ด้วยการใช้เครื่องมือ Ceramic Bracket ติดแน่นที่ฟัน ใช้วัสดุเซรามิกใสมีสีคล้ายฟัน ควบคู่กับยางรัดฟัน Oring และลวดโลหะเพื่อให้ฟันเคลื่อนไปยังตำแหน่งที่ต้องการได้อย่างถูกต้อง ด้วยลักษณะของเครื่องมือที่มีสีใสจึงทำให้การจัดฟันแบบเซรามิกเป็นอีกทางเลือกที่ได้รับความนิยม สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการให้เห็นเครื่องมือแบบชัดเจน
ข้อดีของการจัดฟันแบบเซรามิก
การจัดฟันแบบเซริกมิกนั้นมีข้อดีอยู่หลายประการด้วยกัน ที่ทำให้ได้รับความนิยมจากคนที่มีปัญหาเรื่องฟันไม่สวย และฟันขึ้นแบบผิดรูป โดยการจัดฟันแบบเซรามิกมีข้อดีดังต่อไปนี้
1. การจัดฟันแบบเซรามิกตัวเครื่องมือมีความใสไม่มีสี ทำให้พลางไปกับสีฟันได้ดี
2. ด้วยความใสของเครื่องมือ Ceramic Bracket ของการจัดฟันแบบเซรามิก จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจัดฟันแต่ไม่อยากให้คนสังเกตได้อย่างชัดเจน
3. เครื่องมือจัดฟันแบบเซรามิกมีการติดไว้ด้านนอกฟัน ช่วยให้ดูแลรักษาได้ง่ายรวมถึงการเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ไม่ยากด้วยเช่นกัน
4. การจัดฟันแบบเซรามิกมีความระคายเคืองน้อยกว่าแบบโลหะ จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับผู้ที่แพ้เหล็กจัดฟันแบบโลหะ และไม่เกิดอาการเสียวฟันรบกวนขณะจัดฟัน
5. วัสดุจัดฟันแบบเซรามิกมีน้ำหนักเบากว่า ทนทานกว่า จนบางครั้งรู้สึกเหมือนไม่ได้จัดฟัน ที่สำคัญยังลดโอกาสที่เศษอาหารจะติดฟันได้มากกว่าแบบโลหะอีกด้วย
ถึงแม้ว่าวัสดุจัดฟันแบบเซรามิกจะมีความคงทนที่มากกว่า แต่ถึงอย่างไรก็ยังต้องใช้งานอย่างระมัดระวัง พร้อมกับดูแลรักษาตามคำแนะนำของทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นในระหว่างจัดฟันหากพบอาการผิดปกติควรรีบปรึกษาทันตแพทย์ทันที
ข้อควรระวังจากการจัดฟันแบบเซรามิก
ข้อควรระวังจากคำแนะนำของทันตกรรมผู้เชี่ยวชาญเบื้องต้นได้ระบุไว้ว่า ควรใช้งานเครื่องมืออย่างระมัดระวัง เพราะตัววัสดุเซรามิกเมื่อเทียบกับโลหะแล้วก็ยังมีความเปราะบางมากกว่า จึงทำให้มีโอกาสแตกได้เมื่อเกิดอุบัติเหตุระหว่างจัดฟัน และสิ่งที่ไม่ควรละเลยมากที่สุดคือการไปพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอตามกำหนด เพื่อให้ทันตแพทย์ได้ดูแลเครื่องมือ ติดตามผลการเคลื่อนที่ของฟัน รวมไปถึงการแก้ไขปัญหาเมื่อพบเจอสิ่งผิดปกติจากการจัดฟันแบบเซรามิ
จัดฟันแบบเซรามิกที่ศูนย์ทันตกรรมทันตกิจดีอย่างไร
ที่คลินิกทันตกรรมของทันตกิจมีประสบการณ์ด้านการจัดฟันมาอย่างยาวนาน หลายชั่วอายุคน พร้อมทั้งมีทีมทันตแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านการจัดฟันแบบเซรามิกที่พร้อมดูแลระหว่างการจัดฟันตั้งแต่วันแรกจนถึงวันที่ฟันเข้ารูปอย่างสวยงาม
ORTHODONTICS (BRACES)
THB | |
Metal Braces | 50,000–100,000 |
Ceramic Braces | 70,000–100,000 |
Speed Braces (Damon System) | 100,000–160,000 |
INVISALIGN | 79,000–250,000 |
Retainers (each arch) | 3,000-5,000 |
Fixed Retainers (each arch) | 5,000-7,000 |