ออกแบบรอยยิ้มด้วยระบบคอมพิวเตอร์คืออะไร ทำความรู้จักกับเทคโนโลยี Digital Smile Design (DSD)
คุณเป็นคนที่ไม่เคยมั่นใจในรอยยิ้มของตัวเองหรือไม่?
พยายามจะลองยิ้มดูทีไร ส่องกระจกดูแล้วก็พบว่า รอยยิ้มของเรากลับมีความแปลกๆ บางคนยิ่งพยายามยิ้มมากเท่าไหร่ ยิ่งดูเหมือนแสยะยิ้ม หรือสำหรับบางคน การยิ้มกลับเป็นการเปิดเผยปมด้อยของฟันที่ไม่สวยงาม เมื่อความงดงามอย่างการยิ้ม กลับกลายเป็นสิ่งที่เราจะต้องหลีกเลี่ยง เราก็ถูกมองเป็นคนหน้าบึ้งตึงไปโดยไม่รู้ตัว ทำให้เกิดผลกระทบทั้งด้านความเชื่อมั่นในตนเอง ความสัมพันธ์ต่อผู้คนรอบข้าง และความสุขในชีวิตในตนเอง
หากคุณเป็นหนึ่งคนที่พบปัญหาดังกล่าวข้างต้น ลองเปิดใจให้ Digital Smile Design (DSD) เป็นทางออกสุดท้าย ที่จะช่วยให้คุณมีรอยยิ้มที่สวยงามดั่งใจปรารถนา ฟื้นฟูความสดใสและความมั่นใจในตัวคุณ ด้วยเทคโนโลยีการรักษาด้านความงามทางทันตกรรมกันค่ะ
รอยยิ้มที่ดีควรมีคุณสมบัติอย่างไร?
ก่อนที่เราจะทำความรู้จักกับวิธีการสร้างรอยยิ้มที่สวยงามอย่าง Digital Smile Design (DSD) เราลองมาดูคุณสมบัติของรอยยิ้มที่อยู่ในอุดมคติของใครหลายๆคนกันก่อนดีกว่าค่ะ
- ความสมมาตรของรอยยิ้ม: ความสมมาตรของรอยยิ้ม คือ การที่รอยยิ้มทั้งสองฝั่งมีความตรง เสมอ และมีขนาดที่เท่ากัน ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป รวมถึงต้องมีความตรงเสมอกันอีกด้วย
- การเรียงตัวของฟัน: ฟัน ถือเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดของรอยยิ้ม ฟันที่เรียงตัวกันอย่างดีจะทำให้คุณมีรอยยิ้มที่สดใส สวยงาม รอยยิ้มที่ดีไม่ควรมีฟันที่ซ้อนทับหรือฟันที่ยื่นออกมากว่าฟันซี่อื่นๆ รวมถึงไม่มีช่องว่างระหว่างฟันแต่ละซี่
- ขนาดของฟัน: ขนาดของฟันแต่ละซี่นั้น ควรมีความสมส่วน ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป
- ระดับความขาวของฟัน: ความขาวของฟัน สามารถทำให้รอยยิ้มของคุณมีออร่า ดูสะอาด และน่ามอง
อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติข้างต้นเป็นเพียงคุณสมบัติคร่าวๆที่หลายๆคนคาดหวังไว้ หากแต่ในแต่ละบุคคลอาจมีความต้องการรอยยิ้มที่แตกต่างกันไป ดังนั้น ให้ Digital Smile Design (DSD) ช่วยออกแบบรอยยิ้มที่เป็นของคุณอย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้คุณมีความโดดเด่น มั่นใจ และเป็นตัวของตัวเองได้มากที่สุดค่ะ
Digital Smile Design (DSD) คืออะไร?
Digital Smile Design (DSD) หรือการออกแบบรอยยิ้มแบบดิจิตอลนั้น ถือเป็นหนึ่งในวิธีการในทางทันตกรรมเสริมความงามยุคใหม่ ที่นำเอาเทคโนโลยีดิจิตอล และ Software ทางระบบคอมพิวเตอร์ เข้ามามีบทบาทในการวางแผน ประเมินวิธีการและผลการรักษา โดยมีวัตถุประสงค์คือ ทำให้ผู้เข้ารับบริการมีรอยยิ้มที่คาดหวังไว้
Digital Smile Design (DSD) มี Concept อย่างไร?
Concept ที่น่าสนใจของการทำ Digital Smile Design (DSD) ซึ่งค่อนข้างมีความแตกต่างและทำให้ DSD ได้รับความนิยมอย่างมาก คือ การใช้เทคโนโลยีดิจิตอลและ Software มาใช้ในการวินิจฉัยปัญหาที่เกิดขึ้น รวมถึงใช้ในการวิเคราะห์ วางแผนการรักษา ซึ่งมีความแม่นยำอย่างสูง ทำให้ผู้เข้ารับการบริการสามารถมั่นใจได้ว่า รอยยิ้มที่คุณจะได้รับ จะมีความสวยงามตามรูปแบบที่ได้มีการวางแผนไว้
Digital Smile Design (DSD) นั้น ถือเป็นการบูรณาการในทางทันตกรรม เนื่องจากเป็นการใช้ทั้งศาสตร์ทางด้านการรักษาฟัน และการใช้ศิลป์ในการตกแต่งเพื่อทำให้ฟันและรอยยิ้มของผู้เข้ารับบริการดูดียิ่งขึ้น
ประโยชน์ที่คุณจะได้รับจากการทำ Digital Smile Design (DSD) สามารถแบ่งได้ดังต่อไปนี้
- การแสดงภาพถ่ายและภาพเคลื่อนไหว: การแสดงภาพถ่ายและภาพเคลื่อนไหวในขั้นตอนการวางแผนตอนแรกนั้น ถือเป็นจุดเด่นสำคัญที่ทำให้การทำ Digital Smile Design (DSD) มีความโดดเด่นและแตกต่างจากการรักษาในรูปแบบอื่น คุณจะสามารถรับชมภาพและภาพเคลื่อนไหวพร้อมกับทันตแพทย์ในขั้นตอนก่อนการรักษา ที่จะแสดงภาพพัฒนาการระหว่างฟัน เหงือก ริมฝีปาก และรอยยิ้มใหม่ที่คุณจะได้รับ
- รอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคุณเอง: ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของการทำ Digital Smile Design (DSD) คือ คุณจะสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการวางแผนการรักษาได้ คุณสามารถบอกถึงความต้องการหรือดีไซน์รูปแบบรอยยิ้มที่คุณอยากจะได้รับกับทันตแพทย์ได้ ซึ่งต่างจากการรักษาทันตกรรมอื่นๆที่ทันตแพทย์จะเป็นผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถลงความเห็นในการรักษาได้
Digital Smile Design (DSD) กับการทำวีเนียร์และครอบฟัน
วีเนียร์และการทำครอบฟัน ถือเป็นขั้นตอนที่มีบทบาทอย่างมากในการทำ Digital Smile Design (DSD) เนื่องจากเป็นกระบวนการต่อเนื่องหลังจากการวางแผนและออกแบบการรักษาแล้ว ก่อนอื่น เราลองมาทำความรู้จักกับการทำวีเนียร์และครอบฟันกันก่อนดีกว่าค่ะ
การทำวีเนียร์และครอบฟัน เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะในแวดวงของดารา นักแสดง ทั้งในไทยและต่างประเทศ เนื่องจากการทำวีเนียร์และการทำครอบฟันนั้น สามารถแก้ไขปัญหาในเรื่องรูปลักษณ์ของฟันได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งดูแลรักษาได้อย่างง่ายดาย และมีอายุในการใช้งานได้อย่างยาวนาน
การทำวีเนียร์ (Dental Veneer) คือการรักษาฟันโดยการใช้วัสดุแผ่นบาง,ใส ที่ทำจากเซรามิค/พลอสเลน มีสีและรูปร่างลักษณะคล้ายคลึงกับฟันจริง นำมาแปะเคลือบผิวฟันในบริเวณที่ต้องการรักษาหรือแก้ไขให้ดูดีขึ้นกว่าเดิม เช่น ฟันที่มีลักษณะไม่เข้ารูป (ฟันบิ่น, ฟันแตก, ฟันหัก, ฟันที่มีรูปร่างหรือขนาดที่ไม่เท่ากัน) หรือเนื้อฟันที่มีคราบและสีที่ไม่พึงปรารถนา (ฟันเหลือง) เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ก่อนจะตัดสินใจรักษาด้วยการทำวีเนียร์ เราควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อทำให้เกิดการตัดสินใจที่ถูกต้องในการรักษา และได้ประสิทธิผลออกมาอย่างน่าพึงพอใจที่สุด
การทำวีเนียร์นั้น เหมาะกับผู้ที่ประสบปัญหาในเรื่องของฟัน ซึ่งสามารถจำแนกแยกแยะได้ดังต่อไปนี้
- ผู้ที่มีปัญหาในเรื่องของสีฟัน: สีฟัน เป็นปัญหาที่รบกวนจิตใจของใครหลายคน โดยเฉพาะชาวเอเชียอย่างพวกเรา ที่นอกจากจะมีเนื้อฟันสีเหลืองตามธรรมชาติของพันธุกรรมแล้ว ยังนิยมชมชอบกับเครื่องดื่มที่แสนเอร็ดอร่อยอย่างกาแฟหรือชา เครื่องดื่มยอดฮิตประจำชาติ ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เนื้อสีในฟันของเราคล้ำลงไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะบางคนที่สูบบุหรี่ยิ่งเป็นตัวการที่ทำให้สีฟันไม่ขาวใสดั่งที่หวัง การทำวีเนียร์นั้นจะสามารถกลบลบสีฟันของเราให้เปลี่ยนเป็นฟันขาวใส ดูดีได้อย่างทันตาเห็น โดยทันตแพทย์จะแนะนำเฉดสีที่เหมาะสมกับผู้เข้ารับการรักษา โดยเป็นสีที่ดูมีความสวยงามแบบธรรมชาติ ทำให้ท่านสามารถกลับมามีรอยยิ้มที่มั่นใจ ไม่ต้องกลัวหรือกังวลกับสีฟันเหมือนแต่ก่อน
- ผู้ที่มีปัญหาในเรื่องของขนาดฟัน: อาจเป็นสิ่งที่ยากที่จะกำหนดให้ฟันของเรามีขนาดที่เรียงได้แบบเท่ากัน ไม่เล็กเกินไปหรือใหญ่กว่าฟันรอบๆข้างตั้งแต่กำเนิด หากแต่การรักษาแบบวีเนียร์สามารถแก้ไขปัญหาความบกพร่องนี้ได้อย่างตรงจุด โดยรักษาฟันเฉพาะซี่ที่มีความผิดปกติ เพียงเท่านี้ก็จะทำให้ท่านมีฟันที่มีขนาดเหมาะสม ยิ้มแล้วดูไม่ขัดตา มีความมั่นใจได้ในทุกเมื่อ
- ผู้ที่มีปัญหาในเรื่องการเรียงตัวของฟัน: บางท่านอาจมีปัญหาแนวแกนฟันเรียงกันไม่เข้าที่ หรือเรียกง่ายๆว่าฟันเหยิน หรือหลุบเข้าไปข้างใน หรือฟันห่างกว่าปกติ การทำวีเนียร์จะช่วยให้ท่านกลับมามีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงาม ดูมีสุขภาพฟันที่ดีและแข็งแรง ไม่แพ้ดารานักแสดงในโทรทัศน์เลยทีเดียวปัญหาดังกล่าวข้างต้นนั้น จะเห็นได้ว่าล้วนมีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกันกับรอยยิ้มอย่างมาก ดังนั้น ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงมักนำเอาการทำวีเนียร์ เข้ามาแก้ไขเกี่ยวกับปัญหาในเรื่องรอยยิ้มได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม การทำวีเนียร์แบบปกติ กับการทำวีเนียร์แบบ Digital Smile Design (DSD) มีความแตกต่างกันในบางแง่มุม ดังต่อไปนี้
การทำวีเนียร์แบบทั่วไปนั้น โดยขั้นตอนแล้ว ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการนัดหมายผู้เข้ารับการรักษามาเพื่อวางแผน ออกแบบฟันด้วยกัน ว่าต้องการให้ออกมาเป็นไปในทิศทางแบบใด และต้องการแก้ไขในส่วนใดบ้าง หลังจากนั้นทันตแพทย์จะทำการถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวไว้เพื่อใช้ในการวางแผนการรักษา หลังจากนั้น ทันตแพทย์จะทำการกรอฟันของผู้เข้ารับการรักษาให้เข้าที่ เหมาะสม โดยทั่วไปแล้ว ทันตแพทย์จะทำการกรอฟันในส่วนหน้าและด้านข้างออกอย่างพอประมาณเหมาะสม เนื่องจากการกรอฟันนั้น จะทำให้มีพื้นที่ในการใส่วีเนียร์ ทำให้เมื่อใส่วีเนียร์แล้วจะออกมาดูมีความธรรมชาติ ไม่หนาหรือดูแปลกเกินไป ยากที่จะมองออกว่าไม่ใช่ฟันที่แท้จริง หลังจากนั้น ทันตแพทย์จะทำการพิมพ์ปากและส่งผลไปให้กับห้องแลป (Lab) ทางทันตกรรม ในขั้นตอนนี้ ทันแพทย์จะเลือกเฉดของสีฟันที่เหมาะสมกับผู้เข้ารับการรักษา โดยคัดเลือกจากเฉดสีที่มีความเหมาะสม ไม่ปลอมหรือดูลอย และเป็นธรรมชาติมากที่สุด เพื่อทำให้เกิดความมั่นใจในการยิ้ม หลังจากเข้ารับการรักษาแล้ว
แบบพิมพ์ปากจะถูกส่งไปที่ห้องแลปเพื่อทำการผลิตตัวอุปกรณ์ในการรักษา ที่มีขนาด รูปร่าง และสีที่เหมาะกับผู้ที่เข้ารับการรักษา โดยอาจใช้ระยะเวลาในการผลิตหลายวัน ระหว่างนั้นทันแพทย์อาจพิจารณาทำการสร้างเคลือบฟันเทียมชั่วคราวให้ผู้เข้ารับการรักษาใส่ทดแทนไปก่อน เมื่ออุปกรณ์ในการเคลือบฟันที่ส่งจากห้องแลปมาถึงแล้ว ทันตแพทย์จึงจะทำการนัดหมายผู้เข้ารับการรักษา เพื่อทำการใส่อุปกรณ์ โดยจะทำการแปะวีเนียร์ไปที่ฟันซี่ที่มีปัญหา และตรวจสอบความแน่นรวมถึงตำแหน่งที่เหมาะสม
ดังนั้น สามารถกล่าวได้ว่า การทำวีเนียร์ในรูปแบบปกติ ผู้เข้ารับการรักษาจะสามารถรู้และเห็นผลลัพท์ได้อย่างชัดเจนก็ต่อเมื่อทำการรักษาเสร็จเรียบร้อยแล้วเท่านั้น ในขณะที่การทำวีเนียร์ในรูปแบบของ Digital Smile Design (DSD) คุณจะสามารถเห็นผลลัพท์ได้ตั้งแต่ในขั้นตอนแรกที่ทำการวางแผนการรักษา ระบบ Digital Smile Design (DSD) จะมีกลไกสำคัญที่สามารถแสดงภาพใบหน้าและรอยยิ้มของผู้เข้ารับการรักษา ซึ่งมีวีเนียร์เป็นส่วนประกอบสำคัญของภาพ ภาพเคลื่อนไหวนั้นจะแสดงความเคลื่อนไหวที่จะเกิดขึ้นจริงในช่องปากของผู้เข้ารับการรักษา และรอยยิ้มนั้นก็เป็นรอยยิ้มที่คุณจะได้รับหลังจากการทำ Digital Smile Design (DSD) ที่แท้จริง
Digital Smile Design (DSD) มีขั้นตอนการรักษาอย่างไร?
Digital Smile Design (DSD) มีขั้นตอนและกระบวนการในการรักษาดังต่อไปนี้
- เมื่อคุณเข้าพบทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน DSD แล้ว ทันตแพทย์จะทำการเอกซเรย์เพื่อดูลักษณะภายในโครงสร้างของฟัน รวมถึงทำการถ่ายรูปใบหน้า และสแกนฟันในช่องปากของผู้เข้ารับบริการ เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดไปใช้ในการวิเคราะห์ในระบบ Digital Smile Design (DSD) Software
- ทันตแพทย์จะทำการพูดคุยกับผู้เข้ารับบริการ โดยจะเน้นที่ความต้องการของผู้เข้ารับบริการเป็นหลักว่าต้องการจะให้รอยยิ้มออกมาเป็นแบบใด ในขั้นตอนนี้ คุณอาจจะนำภาพของดารา ไอดอลที่ชอบ หรือรอยยิ้มที่คุณคิดว่าน่าจะเหมาะกับตัวคุณมาวิเคราะห์ร่วมกันกับทันตแพทย์ได้
- ทันตแพทย์จะทำการตรวจภายในช่องปาก ว่าฟันแต่ละซี่มีปัญหาหรือไม่อย่างไร หรือควรรับการแก้ไขตรงไหนบ้าง เพื่อจะเป็นข้อมูลที่ใช้ในการวิเคราะห์และวางแผนการรักษา
- ทันตแพทย์จะนำรูปถ่ายและข้อมูล Software ทั้งหมดเข้าไปออกแบบในระบบคอมพิวเตอร์ Digital Smile Design (DSD) เมื่อระบบได้วิเคราะห์ข้อมูลและขั้นตอนการวางแผนออกมาอย่างครบถ้วนแล้ว ทันตแพทย์จะทำการนัดหมายผู้เข้ารับบริการเข้ามาดูภาพจำลอง หากผู้เข้ารับบริการพึงพอใจกับแผนการรักษาและผลลัพท์ดังกล่าว ทันตแพทย์ก็จะเริ่มต้นขั้นตอนในการทำวีเนียร์/อุปกรณ์ครอบฟันได้ในทันที โดยทันตแพทย์จะทำการปรับแต่งพื้นผิวหน้าของฟัน ก่อนทำการสแกนฟัน พิมพ์ปาก และนำส่งห้องแลปเพื่อใช้ในการทำตัวอุปกรณ์ โดยปกติแล้วในขั้นตอนการผลิตจะใช้ระยะเวลาในการรอประมาณ 1 ถึง 2 สัปดาห์ ในช่วงระยะเวลาการรอนั้น ทันตแพทย์จะให้ผู้เข้ารับการรักษา ใส่วีเนียร์ชั่วคราว เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนจะใส่ตัวอุปกรณ์วีเนียร์จริงจากห้องแลป
- เมื่อถึงวันนัดหมายอีกครั้ง ทันตแพทย์จะทำการใส่วีเนียร์ตัวจริงให้กับผู้เข้ารับการรักษา หากหลังจากการใส่ ผู้เข้ารับการรักษารู้สึกว่าใส่วีเนียร์แล้วไม่สบาย รู้สึกอึดอัดหรือหลวม สามารถแจ้งให้ทันตแพทย์ปรับแก้ตัวอุปกรณ์ได้ตลอดในระยะเวลาการรักษา สำหรับระยะเวลาการรักษานั้น ไม่สามารถระบุได้แน่ชัด เนื่องจากแต่ละเคสมีปัญหาที่แตกต่างกัน ดังนั้น คุณสามารถสอบถามจากทันตแพทย์ได้เป็นรายบุคคล
ทำไมท่านถึงควรเลือกรักษาที่ศูนย์ทันตกรรมทันตกิจ?:
เนื่องจากการทำ Digital Smile Design (DSD) มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง และต้องใช้ความเชี่ยวชาญชำนาญในการวางแผนการรักษา ดังนั้น ผู้เข้ารับการรักษาควรคัดสรรสถาบันที่มีความเชี่ยวชาญชำนาญการในด้านนี้มากที่สุด ศูนย์ทันตกรรมทันตกิจ ถือเป็นสถานที่ที่มีความชำนาญเฉพาะทางทางด้านทันตกรรมความงาม ซึ่งมีประสบการณ์การรักษามามากกว่า 20 ปี มีทันตแพทย์เฉพาะทางที่มีความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ ศูนย์ทันตกรรมทันตกิจยังมีสถานที่ที่ได้รับการรับรองว่ามีการปลอดเชื้อในมาตรฐานระดับโรงพยาบาล ทำให้ผู้เข้ารับการรักษาไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะเกิดภาวะแทรกซ้อนใดใดในระหว่างการรักษา
มาออกแบบรอยยิ้มที่สวยงามและสดใส ด้วยตัวคุณเอง และเพื่อตัวคุณเองกันนะคะ
