จัดฟันแบบโลหะ
จัดฟันแบบโลหะ กับศูนย์ทันตกรรมทันตกิจ ดูแลทันตแพทย์โดยผู้เชี่ยวชาญ
การจัดฟันแบบโลหะธรรมดา เป็นวิธีการจัดฟันที่นิยมใช้ มานาน โดยปัจจุบันได้มีการพัฒนาขนาดของวัสดุที่ใช้ให้มี ขนาดเล็กลง มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และให้ความรู้สึกสะดวก เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย อีกทั้งมียางสีต่าง ๆ ให้เลือกมากมาย
จัดฟันแบบโลหะติดแน่น (Metal Bracket)
ทันตแพทย์จะติดแบร็คเก็ตลงบนผิวหน้าของฟันเพื่อใช้อุปกรณ์ยึดลวดจัดฟัน จากนั้นจึงร้อยลวดจัดฟันเข้าไปในแบร็คเก็ตและใช้ยางจัดฟันยึดลวดจัดฟันให้อยู่ในแบร็คเก็ต เมื่อดึงลวดให้ตึงขึ้นจะเป็นการเพิ่มแรงดึงที่ตัวฟัน ทำให้ฟันค่อย ๆ เคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม
ทันตแพทย์จัดฟันจะปรับเหล็กจัดฟันทุก ๆ 4-6 สัปดาห์เพื่อให้ฟันเคลื่อนไปยังตำแหน่งที่ต้องการ โดยการจัดฟันอาจต้องใช้เวลาตั้งแต่หนึ่งถึงสามปี
ข้อดีของการจัดฟัน
1. ฟันเรียงตัวสวยขึ้น มีรอยยิ้มที่สวยงาม
2. เสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีขึ้น และเพิ่มความมั่นใจ
2. เพิ่มประสิทธิภาพในการสบฟันที่ดีขึ้น และการเคี้ยวอาหารได้ดีกว่าเดิม
3. สุขภาพปากและฟันดีขึ้น การทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง ฟันผุน้อยลง
4. ช่วยลดกลิ่นปาก ง่ายต่อการทำความสะอาดฟัน
5. การจัดฟันทำให้รูปหน้าเปลี่ยนไป (ขึ้นอยู่กับบุคคล)
ข้อเสียของการจัดฟัน
1. รู้สึกไม่สบายปากในช่วงแรกที่จัดฟัน มีอาการตึงและเจ็บที่ฟันในระหว่างจัดฟัน เกิดจากการเคลื่อนของฟัน
2. ระหว่างที่จัดฟัน ทำความสะอาดฟันยากขึ้น อาจทำให้ฟันผุและมีกลิ่นปากได้
3. หลังจัดฟันเสร็จแล้ว จะต้องใส่รีเทนเนอร์ตามคำแนะนำของทันตแพทย์จัดฟัน
4. การพูดหรือการออกเสียงอาจไม่ชัดเจนบ้าง
5. ใช้เวลา 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับความผิดปกติของแต่ละบุคคล และต้องพบทันตแพทย์บ่อย ยกเว้นการจัดฟันแบบใสอินวิสไลน์ Invisalign
6. อาจมีค่าใช้จ่ายสูง
ควรเริ่มจัดฟันตั้งแต่อายุเท่าไร
การจัดฟันนั้นสามารถทำได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ผู้ป่วยควรได้รับการตรวจการสบฟันจากทันตแพทย์ทั่วไป และได้รับการส่งต่อมายังหมอจัดฟันทันที ที่สังเกตุพบปัญหาการสบฟัน การจัดฟันส่วนใหญ่มักเริ่มทำในเด็กมีฟันแท้ขึ้นเกือบครบ คืออายุประมาณ 11-13 ปี อย่างไรก็ตามการแก้ไขปัญหาการสบฟันบางอย่างสามารถทำได้ในช่วงฟันแท้ขึ้นผสมกับฟันน้ำนมเพื่อลดความรุนแรงของปัญหา หรือเพื่อป้องกันการไม่ให้เกิดการพัฒนาไปเป็นความผิดปกติที่มีความรุนแรงขึ้น เช่นการจัดฟันหน้าบางส่วนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุกระทบกระแทกต่อฟันในกรณีที่ฟันหน้าบนยื่นมาก ๆ การจัดฟันในชุดฟันผสมมักเป็นการรักษาระยะสั้น และเป็นการจัดฟันบางส่วนเท่านั้น เมื่อผู้ป่วยเข้าสู่ระยะฟันแท้ ส่วนใหญ่จะจำเป็นต้องได้รับการจัดฟันทั้งปากต่อไป
ข้อควรปฏิบัติในระหว่างการจัดฟัน
1. การติดเครื่องมือจัดฟันจะทำให้มีเศษอาหารติดที่ฟันได้ง่ายรวมไปถึงการทำความสะอาดฟันจะมีความยากลำบากมากขึ้น ผู้ที่จัดฟันจึงต้องเพิ่มความละเอียดในการทำความสะอาดฟันรวมไปถึงการใช้อุปกรณ์เสริมเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดฟันผุ
2. ควรรับประทานอาหารที่เคี้ยวง่ายเพื่อป้องกันเครื่องมือจัดฟันเสียหาย หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีลักษณะแข็งและเหนียว เพราะนอกจากจะทำให้เหล็กจัดฟันเสียหายแล้ว อาจจะทำให้ปวดฟันอีกด้วย ควรใช้ฟันกรามเคี้ยวอาหารจะช่วยบรรเทาอาการปวดฟันได้
3. ควรไปพบทันตแพทย์ตามนัดเป็นประจำ เนื่องจากการขาดความต่อเนื่องในการรักษาจะทำให้ระยะเวลาในการจัดฟันนานขึ้น รวมไปถึงผลลัพธ์ของการรักษาอาจไม่เป็นไปตามที่วางใว้อีกด้วย
การจัดฟันแบบโลหะ คือวิธีการจัดฟันแบบใช้เครื่องมือที่ได้รับความนิยมที่สุด ตั้งแต่วัยรุ่นจนไปถึงวัยทำงาน สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องฟันไม่สวย หรือฟันขึ้นอย่างผิดรูปได้ การสบฟันไม่สนิทได้อย่างมีประสิทธิภาพ เห็นผลลัพธ์จริงเมื่อครบเวลาที่กำหนด รวมไปถึงราคาค่าบริการที่ไม่สูงมากนึก
จัดฟันแบบโลหะดีอย่างไรใช้เวลานานแค่ไหน
ลักษณะการจัดฟันแบบโลหะคือการใช้เครื่องมือแปะติดที่ผิวฟันด้านหน้า แล้วใส่สวดผ่านร่อง Bracket ควบคู่กับการใช้ยางรัดฟัน O-ring เพื่อช่วยตรึงเครื่องมือให้แน่น และช่วยให้ฟันเคลื่อนเข้าที่ได้อย่างดี แต่ทั้งนี้การจัดฟันแบบโลหะ จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอเพื่อเปลี่ยนอุปกรณ์ต่าง ๆ ตามระยะเวลาที่กำหนด เพราะอุปกรณ์ของเครื่องมือจัดฟันแบบโลหะบางชิ้นมีอายุการใช้งานที่จำกัด
ระยะเวลาในการจัดฟันแบบโลหะส่วนมากจะยืนพื้นอยู่ที่ 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับโครงสร้างของฟันและระยะเวลาที่ฟันเคลื่อนตัวเข้าที่ แต่สำหรับบางกรณีที่มากกว่า 3 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบบุคคลด้วยเหมือนกัน อย่างเช่นปัญหาด้านสุขภาพ ทั้งนี้การจัดฟันแบบโลหะควรได้รับคำปรึกษากับทันตแพทย์เพื่อประเมินการรักษาที่ชัดเจนก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการจัดฟัน
ข้อดีของการจัดฟันแบบโลหะ
ข้อดีของการจัดฟันแบบโลหะนั้นสามารถแบ่งได้อยู่หลายประการด้วยกัน ที่เป็นเครื่องยืนยันถึงความนิยมของคนหลายช่วงวัยได้เป็นอย่างดี โดยมีข้อดีดังต่อไปนี้
1. สามารถช่วยแก้อาการเกี่ยวกับฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นฟันซ้อน ฟันยื่น ฟันห่าง ฟันเก ฟันไม่สามารถสบได้สนิท เมื่อฟันเคลื่อนเข้าที่ก็จะสามารถเรียงตัวได้สวยแบบธรรมชาติ
2. เมื่อฟันเคลื่อนเข้าที่แล้วก็สามารถขบเคี้ยวอาหารได้ดีขึ้นกว่าเดิม จากที่มีปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับฟัน
3. การจัดฟันแบบโลหะมีส่วนช่วยให้สุขภาพฟันดีขึ้น จากการเคลื่อนตัวของฟันที่เป็นระเบียบ จึงทำให้ทำความสะอาดฟันได้ง่ายขึ้นและลดโอกาสเกิดฟันผุ
4. ช่วยให้กลิ่นปากลดลงจากการเรียงตัวของฟันหลังจากการจัดฟันแบบโลหะ เพราะทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย
5. จากการจัดฟันแบบโลหะที่ทำให้ฟันเคลื่อนเรียงตัวได้อย่าสวยงาม จึงมีผลให้โครงหน้าเข้ารูปได้สมส่วนมากขึ้น
ข้อควรระวังจากการจัดฟันแบบโลหะ
การจัดฟันแบบโลหะนั้นมีกฎเหล็กหรือข้อควรระวังที่ควรให้ความสำคัญอยู่หลายปัจจัยด้วยกัน ซึ่งจะต้องมีความใส่ใจและเข้มงวดในระหว่างการจัดฟันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการได้เป็นอย่างดี
1. ในระหว่างที่จัดฟันควรคำนึงเรื่องความสะอาดในช่องปากเป็นพิเศษ เพราะเศษอาหารมักจะเกาะตามเครื่องมือจัดได้ง่าย และอาจทำความสะอาดได้ยากขึ้น จึงจำเป็นต้องใส่ใจมาก ๆ เพื่อลดปัญหาช่องปากและกลิ่นปากที่อาจตามมาได้
2. ควรงดอาหารบางประเภทตลอดการจัดฟัน เช่น อาหารที่มีความแข็ง เหนียว หรืออาหารที่สามารถเคี้ยวได้ยาก ควรหลีกเลี่ยงเพื่อลดความเสียหายของเครื่องมือและฟัน
3. ควรพบทันตแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แพทย์สามารถติดตามผลลัพธ์ได้ รวมถึงประเมินอาการอื่น ๆ ที่อาจมีการแทรกซ้อนเข้ามาได้ตลอดเวลา และที่สำคัญของมีการเปลี่ยนอุปกรณ์บางชิ้นตามกำหนดด้วย เพื่อประสิทธิภาพการจัดฟันแบบโลหะที่ควรจะเป็น
จัดฟันแบบโลหะที่ศูนย์ทันตกรรมทันตกิจดีอย่างไร
ด้วยประสบการณ์ด้านทันตกรรมที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 100 ปีของทันตกิจ ทำให้คุณไว้วางใจได้ด้วยความเชี่ยวชาญจากทีมทันตแพทย์เฉพาะทางของพวกเรา พร้อมดูแลตั้งแต่วันแรกจนถึงวันที่ต้องถอดเหล็กจัดฟัน
ORTHODONTICS (BRACES)
THB | |
Metal Braces | 50,000–100,000 |
Ceramic Braces | 70,000–100,000 |
Speed Braces (Damon System) | 100,000–160,000 |
INVISALIGN | 79,000–250,000 |
Retainers (each arch) | 3,000-5,000 |
Fixed Retainers (each arch) | 5,000-7,000 |