รอยยิ้มที่สวยงามเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและบุคลิกภาพให้โดดเด่น ซึ่งในปัจจุบัน มีนวัตกรรมการจัดฟันใสที่มีประสิทธิภาพและเป็นที่นิยมอย่างมาก มีชื่อเรียกว่า “การจัดฟันแบบ Invisalign” เป็นการจัดฟันใสที่สามารถรักษาปัญหาฟันได้ทุกรูปแบบ ช่วยเคลื่อนฟันให้เรียงตัวสวยได้โดยที่ไม่มีใครรู้ว่ากำลังจัดฟันอยู่ ซึ่งในบทความนี้ เราได้รวบรวม 7 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการจัดฟันอินวิสไลน์ จะน่าสนใจแค่ไหน ไปดูกันเลย
Page Contents
7 คำถามไขข้อสงสัยเรื่องจัดฟันแบบ Invisalign
1. การจัดฟันแบบ Invisalign คืออะไร
การจัดฟันแบบ Invisalign คือ การจัดฟันใสแบบถอดได้ยี่ห้ออินวิสไลน์ (Invisalign) ผลิตโดยบริษัท Align Technology จากสหรัฐอเมริกา โดยอุปกรณ์จัดฟันใส Invisalign จะผลิตด้วยเทคโนโลยี SmartTrack ซึ่งทำให้ได้อุปกรณ์จัดฟันใสมีความยืดหยุ่นสูง สามารถสวมเข้าและถอดออกได้ง่าย โดยไม่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์จัดฟันใสที่มีความแข็งต่างกันเหมือนอุปกรณ์จัดฟันใสยี่ห้ออื่น ๆ
ลักษณะอุปกรณ์จัดฟันใสอินวิสไลน์นั้น จะเป็นถาดพลาสติกใสที่ออกแบบมาเฉพาะบุคคล ส่งตรงจากห้องแล็บสหรัฐอเมริกา โดยใน 1 ชุดจะประกอบด้วยถาดพลาสติกใสสำหรับฟันบนและฟันล่าง ซึ่งจำนวนชุดที่ได้จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับแผนการรักษาของทันตแพทย์
เมื่อผู้เข้ารับการจัดฟันแบบ Invisalign ได้รับอุปกรณ์จัดฟันใสแล้ว จะต้องใส่อุปกรณ์จัดฟันใสตลอดระยะเวลา ยกเว้นตอนรับประทานอาหารและแปรงฟัน ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว อุปกรณ์จัดฟันใส 1 ชุดจะใส่ได้ประมาณ 7 – 14 วัน เมื่อครบเวลาที่กำหนดแล้ว จะต้องเปลี่ยนไปใสชุดถัด ซึ่งผู้เข้ารับการจัดฟันสามารถเปลี่ยนไปใส่อุปกรณ์จัดฟันใสชุดถัดไปได้ด้วยตนเอง โดยที่ไม่ต้องไปพบทันตแพทย์
2. จัดฟันแบบ Invisalign ต่างจากการจัดฟันทั่วไปอย่างไร
การจัดฟันแบบ Invisalign แตกต่างจากการจัดฟันทั่วไปตรงที่เป็นอุปกรณ์จัดฟันแบบใส เวลาใส่จะแทบมองไม่เห็นเครื่องมือจัดฟัน จึงทำให้สามารถยิ้มแย้มได้อย่างเปิดเผย และส่งผลกระทบต่อการออกเสียงน้อยกว่า นอกจากนี้อุปกรณ์จัดฟันอินวิสไลน์ยังมีความยืดหยุ่นสูง สามารถถอดออกได้ในขณะที่รับประทานอาหาร หรือทำความสะอาดช่องปาก และที่สำคัญที่สุด ผู้ที่จัดฟันแบบ Invisalign จะทราบระยะเวลาการรักษา และเห็นผลการรักษาแบบจำลองตั้งแต่ต้นจนจบอย่างชัดเจน ซึ่งแตกต่างจากการจัดฟันทั่วไปที่จะทราบระยะเวลาการรักษาโดยประมาณเท่านั้น
3. จัดฟันแบบ Invisalign มีทั้งหมดกี่ประเภท
การจัดฟัน Invisalign มีหลายประเภท แต่ละประเภทจะออกแบบมาเพื่อรักษาปัญหาฟันที่แตกต่างกันไป ซึ่งผู้ที่ต้องการจัดฟันสามารถให้ทันตแพทย์ประเมินสภาพฟันและเลือกประเภทอินวิสไลน์ที่เหมาะสมกับตนเองได้ ดังนี้
- Invisalign i7 เหมาะสำหรับแก้ปัญหาทันตกรรมระดับเล็กน้อย เช่น ฟันซ้อนเกหรือฟันห่างเพียง 1 – 2 ซี่ หรือจัดฟันใหม่ในผู้ที่เคยจัดฟันมาแล้ว แต่ไม่ใส่รีเทนเนอร์ มีเครื่องมือ 7 ชุด และใช้ระยะเวลารักษาประมาณ 3 เดือน
- Invisalign Lite เหมาะสำหรับแก้ปัญหาฟันซ้อน ฟันเก ฟันห่าง ในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง มีเครื่องมือ 8 – 14 ชุด และใช้ระยะเวลารักษาประมาณ 6 – 12 เดือน
- Invisalign Go เหมาะสำหรับแก้ปัญหาฟันระดับปานกลางขึ้นไป มีเครื่องมือ 20 ชุด และใช้ระยะเวลารักษาประมาณ 3 – 6 เดือน
- Invisalign Moderate เหมาะสำหรับแก้ปัญหาฟันระดับปานกลางถึงมาก มีเครื่องมือ 15 -26 ชุด และใช้ระยะรักษาประมาณ 1 – 2 ปี
- Invisalign Full เป็นการจัดฟันอินวิสไลน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะสามารถแก้ปัญหาฟันได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ฟันซ้อน ฟันเก ฟันห่าง หรือฟันสบลึก มีเครื่องมือ 27 ชุดขึ้นไป และใช้ระยะรักษาประมาณ 1 – 2 ปี
4. ปัญหาฟันแบบไหนที่ควรจัดฟันอินวิสไลน์
การจัดฟันแบบ Invisalign สามารถแก้ปัญหาฟันได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ฟันซ้อน ฟันห่าง ฟันเก ฟันสบลึก ฟันสบไขว้ ฟันสบเปิด หรือขากรรไกรล่างยื่น ทั้งในระดับเล็กน้อย ปานกลาง และมาก ซึ่งผู้ที่ต้องการจัดฟันแบบ Invisalign สามารถเข้ามาปรึกษาทันตแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาก่อนได้ โดยอินวิสไลน์จะมีเครื่องสแกนฟันดิจิทัลที่ชื่อว่า “iTero Element” ซึ่งสามารถจำลองผลการรักษาตั้งแต่ต้นจนจบ อ้างอิงจากฐานข้อมูลของคนจัดฟันใสอินวิสไลน์มากกว่า 10 ล้านคนจากทั่วโลก
5. จัดฟันแบบ Invisalign จำกัดอายุหรือไม่
การจัดฟันแบบ Invisalign สามารถเริ่มทำได้เมื่อฟันแท้ขึ้นครบทุกซี่ หรือช่วงอายุประมาณ 12 – 60 ปี เป็นการจัดฟันแบบใสที่เหมาะกับคนทุกกลุ่ม ทั้งในผู้ที่ไม่ต้องการให้ใครเห็นเหล็กจัดฟัน ผู้ที่กลัวเจอปัญหาลวดบาดปาก และผู้ที่ไม่สะดวกจะไปพบทันตแพทย์บ่อย ๆ เพราะการจัดฟันด้วยวิธีนี้จะไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวด ดูแลทำความสะอาดง่าย สามารถถอดออกและเปลี่ยนชุดอุปกรณ์จัดฟันได้ด้วยตนเอง
6. ใช้ระยะเวลาในการจัดฟันนานเท่าไหร่ ต้องถอนฟันด้วยหรือไม่
การจัดฟันแบบ Invisalign จะใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพฟันของแต่ละบุคคล ส่วนจะต้องถอนฟันด้วยหรือไม่นั้น จะขึ้นอยู่กับสภาพฟัน หากมีฟันซ้อนเกมากจนไม่มีช่องว่างในการขยับฟัน หรือมีฟันคุด ทันตแพทย์อาจแนะนำให้ถอนฟันก่อนเข้ารับการจัดฟันอินวิสไลน์เหมือนกับการจัดฟันแบบทั่วไป แต่ข้อดีของการจัดฟันด้วยวิธีนี้ คุณจะสามารถเลือกเก็บฟันซี่ที่ไม่ต้องการถอนออก เช่น ฟันเขี้ยว ในขั้นตอนวางแผนการรักษาได้
7. ทำไมจัดฟันแบบ Invisalign ถึงราคาสูงกว่าแบบอื่น ๆ
การจัดฟันแบบ Invisalign เป็นการจัดฟันใสที่อุปกรณ์ผลิตด้วยเทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะของอินวิสไลน์ มีความยืดหยุ่นสูง แตกต่างจากการจัดฟันแบบใสทั่วไป ส่งตรงมาจากห้องแล็บในสหรัฐอเมริกา และสามารถออกแบบแผนการรักษาได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยคุณภาพของการจัดฟันแบบใสมาตรฐานสากลนี้ จึงทำให้การจัดฟันอินวิสไลน์มีราคาสูงกว่าการจัดฟันทั่วไป
เลือกจัดฟันแบบ Invisalign ที่ไหนดี?
การจัดฟันแบบInvisalign เป็นการจัดฟันแบบใสที่มีประสิทธิภาพ สามารถรักษาปัญหาฟันได้ทุกรูปแบบ เพื่อผลการรักษาที่ดีที่สุด ผู้ที่ต้องการจัดฟันอินวิสไลน์ควรเลือกจัดฟันกับทันตแพทย์ที่ผ่านการอบรมจาก Invisalign โดยตรง มีการรับรองจากบริษัท Align Technology สาขาประเทศไทย สามารถค้นหารายชื่อของทันตแพทย์หรือคลินิกทันตกรรมได้ที่เว็บไซต์ของอินวิสไลน์โดยตรง ซึ่งที่ศูนย์ทันตกรรมทันตกิจ เรามีทันตแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการจัดฟันแบบใส Invisalign มาอย่างยาวนานคอยให้บริการคุณอยู่ หากสนใจ สามารถนัดวันและเวลาปรึกษาทันตแพทย์ได้เลย