ใครหลายคนอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับการฟอกสีฟันด้วยเทคโนโลยี Zoom Whitening หรือที่นิยมเรียกสั้น ๆ ว่า “ฟอกฟันขาว Zoom” แต่ยังไม่รู้ว่าการฟอกฟันด้วยวิธีนี้มีข้อดี หรือแตกต่างจากวิธีอื่นอย่างไร ศูนย์ทันตกรรมทันตกิจ (Thantakit) จะพาคุณไปทำความรู้จักเอง
Page Contents
5 ข้อควรรู้ก่อนเข้ารับการ ฟอกฟันขาว Zoom
เพื่อให้คุณสามารถเข้ารับการฟอกสีฟัน Zoom ได้อย่างสบายใจ และรับประโยชน์จากการฟอกฟันขาวได้สูงสุด เรามี 5 ข้อควรรู้ก่อนเข้ารับการฟอกฟันขาว Zoom มาฝาก จะน่าสนใจแค่ไหนนั้น ไปดูกันเลย
1.ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับฟอกสีฟันแบบ Zoom
ฟอกฟันขาว Zoom เป็นหนึ่งในวิธีการฟอกสีฟันที่คลินิก จัดเป็นนวัตกรรมฟอกสีฟันใหม่ล่าสุดจาก Philips โดยใช้แสงสีน้ำเงิน WhiteSpeed LED ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Philips สามารถปรับความเข้มของแสงได้ถึง 3 ระดับ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเจลฟอกสีฟัน ได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์แล้วว่า สามารถช่วยให้ฟันขาวขึ้น 3 – 8 ระดับภายใน 45 นาที
2.ประโยชน์ของการ ฟอกฟันขาว Zoom
ฟอกสีฟันแบบ Zoom Whitening สามารถช่วยให้ฟันขาวขึ้นได้อย่างรวดเร็วภายในครั้งเดียว ใช้ระยะเวลาในการรักษาไม่นาน ประมาณ 45 – 60 นาทีต่อครั้ง และคงความขาวได้อย่างยาวนาน ทำให้ไม่ต้องมาพบทันตแพทย์บ่อย ๆ หรือต้องซื้อน้ำยาฟอกสีฟันไปฟอกเองที่บ้านซ้ำ ๆ จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลา แต่อยากฟอกฟันขาวอย่างเห็นผล
3.ความแตกต่างของฟอกฟันขาว Zoom กับวิธีฟอกสีฟันอื่น ๆ
การฟอกสีฟันแบบ Zoom สามารถช่วยให้ฟันมีเฉดสีขาวขึ้น 3 – 8 ระดับในครั้งเดียว ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า และมีโอกาสเกิดอาการเสียวฟันน้อยกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับการฟอกสีฟันด้วยแสงเย็น (Cool Light) ทั่วไป แต่ก็เป็นวิธีฟอกฟันขาวราคาสูงกว่าวิธีทั่วไปเช่นกัน
4.ขั้นตอนการฟอกสีฟัน Zoom Whitening
ก่อนเข้ารับการฟอกสีฟัน ผู้เข้ารับบริการจะต้องตรวจสุขภาพฟันและช่องปากก่อน หากทันตแพทย์ตรวจพบว่ามีปัญหาฟันต่าง ๆ เช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ หรือมีหินปูนสะสมมาก ก็จะทำการเคลียร์ช่องปากให้เรียบร้อย แล้วค่อยให้เข้ารับการฟอกสีฟัน โดยขั้นตอนการฟอกฟันขาว Zoom มีดังนี้
- ใส่เครื่องมือกันริมฝีปาก และทาน้ำยาบริเวณคอฟัน เพื่อป้องกันไม่ให้เหงือกและเนื้อเยื่อรอบ ๆ สัมผัสน้ำยาฟอกสีฟัน และให้สวมแว่นตาเพื่อป้องกันการเกิดอันตรายต่อดวงตาจากการฉายแสง
- ทำการเป่าน้ำยาให้แห้ง และทาน้ำยาฟอกสีฟันลงไปบนฟัน
- ฉายแสง Zoom เพื่อกระตุ้นน้ำยาฟอกสีฟันให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะทำการฉายแสงรอบละ 15 นาที ประมาณ 3 – 4 รอบ รวมทั้งหมดเป็นระยะเวลา 45 – 60 นาที
- ทำความสะอาดน้ำยาฟอกสีฟันและน้ำยาป้องกันเหงือกออกให้เรียบร้อย และตรวจติดตามผลการรักษา
5.วิธีดูแลตัวเองหลังเข้ารับการฟอกสีฟัน Zoom Whitening
หลังจากฟอกสีฟันเสร็จแล้ว อาจมีอาการเสียวฟันมากในช่วง 1 วันแรก ซึ่งสามารถรับประทานยาแก้ปวดที่ทันตแพทย์ให้มาเพื่อลดอาการเสียวฟันได้ รวมถึงงดการรับประทานอาหาร หรือเครื่องดื่มที่กระตุ้นให้เกิดอาการเสียวฟันอย่างของหวาน ร้อนจัด เย็นจัด หรือเปรี้ยวจัด และใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์สูง
หลังจากนั้น ให้ดูแลสุขภาพฟันและช่องปากของตัวเองด้วยวิธีการต่อไปนี้
- แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้าและก่อนนอน
- ทำการบ้วนปากด้วยน้ำยาผสมฟลูออไรด์ก่อนนอน เพื่อลดการสะสมของคราบแบคทีเรีย และเพิ่มประสิทธิภาพการทำความสะอาดสูงสุด
- หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ฟันเป็นคราบสี เช่น ชา, กาแฟ, น้ำอัดลม, ไวน์, ซอสมะเขือเทศ, เบอร์รีสีเข้ม หรือไอศกรีมที่มีสีสันสดใส เป็นต้น
- เข้ารับการตรวจสุขภาพฟันและช่องปาก รวมถึงฟอกสีฟันทุก ๆ 6 – 12 เดือน
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 สิ่งควรรู้ก่อนเข้ารับการฟอกฟันขาวแบบ Zoom ที่เรานำมาฝากในบทความนี้ หวังว่าจะช่วยให้คุณรู้จักกับวิธีการฟอกสีฟันนี้มากขึ้น สามารถเข้ารับบริการได้อย่างสบายใจ และได้ประสิทธิภาพการฟอกสีฟันสูงสุด สำหรับท่านใดที่สนใจใช้การ ฟอกฟันขาว Zoom ก็สามารถติดต่อเพื่อขอรับคำปรึกษาจากทันตแพทย์ได้เลย เรามีทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฟอกสีฟันแบบ Zoom Whitening พร้อมให้การดูแลทุกเคสด้วยความใส่ใจ เพื่อการสร้างรอยยิ้มที่สวยงามสว่างสดใสให้กับทุกคน