การแปรงฟันเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพื่อดูแลรักษาสุขภาพช่องปากที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม แต่มีหลายคนที่แปรงฟันแบบธรรมดาแล้วยังรู้สึกไม่ค่อยสะอาด ซอกซอนได้ไม่เท่าที่ควร ทำให้มีปัญหากลิ่นปากหรือฟันผุตามมาได้ อีกทั้งพอแปรงฟันเข้านาน ๆ เข้าก็เริ่มเมื่อยมือ เลยสนใจอยากใช้งานแปรงสีฟันไฟฟ้าขึ้นมา แต่ด้วยในท้องตลาดแปรงสีฟันไฟฟ้ามีหลากหลายฟังก์ชัน หลากหลายยี่ห้อ แล้วควรเลือกซื้อแบบไหนดี วันนี้เราได้รวบรวมแปรงสีฟันไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี ที่น่าสนใจในปี 2022 ไว้เป็นคำแนะนำในการตัดสินใจเลือกซื้อแปรงไฟฟ้าที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณกัน
คุณเหมาะกับ แปรงสีฟันไฟฟ้า หรือ แปรงสีฟันปกติ
- แปรงสีฟันปกติ : คุณสามารถทำความสะอาดฟันให้สะอาด ด้วยการปัดแปรงสีฟัน ขึ้นลงซ้ำ ๆ หรือตามเทคนิคความถนัดส่วนตัวของแต่ละบุคคล ซึ่งเป็นประเภทแปรงสีฟันที่หาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป ราคาไม่สูงมากนัก มีสีสัน และรูปแบบให้เลือกมากมาย พกพาสะดวก ไม่ต้องชาร์จแบต ใช้งานได้ทันที
- แปรงสีฟันไฟฟ้า : สำหรับใครที่ไม่แน่ใจว่าจะแปรงฟันได้อย่างถูกต้อง หรือมีข้อจำกัดในการควบคุมข้อมือ สามารถใช้งานแปรงสีฟันไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ ช่วยให้การทำความสะอาดฟันเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น นอกจากนี้แปรงสีฟันไฟฟ้าบางรุ่นยังมีฟังก์ชันพิเศษ เช่น การกำจัดคราบหินปูน หรือโหมดสำหรับคนจัดฟัน ให้เลือกโดยเฉพาะ
ไม่ว่าคุณจะใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า หรือ แปรงสีฟันแบบปกติก็ตาม หากทำความสะอาดช่องปากอย่างถูกวิธี แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ ก็จะสามารถทำความสะอาดฟันได้มีประสิทธิภาพไม่แตกต่างกันมากนัก ดังนั้นการเลือกใช้งานแปรงสีฟันแบบใด ก็ขึ้นอยู่กับความสะดวก และความถนัดในการแปรงฟันของแต่ละบุคคลนั่นเอง
แนะนำ 5 แปรงสีฟันไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี
1. แปรงสีฟันไฟฟ้า Oral-B PRO 500 (ราคา 1,790 บาท)
แปรงสีฟันไฟฟ้า Oral-B รุ่น PRO 500 ด้วยเทคโนโลยีหัวแปรงแบบ 3D ออกแบบมาให้หัวแปรงสามารถ หมุนซ้าย – ขวา 8,800 รอบต่อนาที และขยับขึ้น – ลงได้ 20,000 ครั้ง/นาที รวมถึงตัวเครื่องยังใช้งานง่าย และมีระบบแจ้งเตือนทุก 30 วินาที เพื่อให้เปลี่ยนตำแหน่งการแปรงในแต่ละด้านจนครบ 2 นาที เป็นระบบการทำความสะอาดแบบ Daily clean รวมถึงภายในกล่องจะประกอบด้วย รีฟิวหัวแปรง Oral-B Cross Action 1 หัว ด้ามแปรง และแท่นชาร์จไฟ ซึ่งเมื่อชาร์จไฟเต็มจะสามารถใช้งานได้สูงสุด 7 วัน ต่อการแปรงฟันวันละ 2 ครั้งต่อวัน และสินค้ามีการรับประกันระยะเวลา 2 ปี
2. แปรงสีฟันไฟฟ้า Philips Sonicare HX3215 (ราคา 1,590 บาท)
ใครที่ยังไม่เคยใช้แปรงสีฟันไฟฟ้ามาก่อน แนะนำเริ่มต้นด้วย Philips Sonicare รุ่น HX3215 แปรงสีฟันไฟฟ้าที่มาพร้อมเทคโนโลยีคลื่นโซนิคความถี่สูงถึง 62,000 ครั้งต่อนาที สามารถช่วยกำจัดคราบพลัคและคราบหินปูนได้มากกว่าแปรงสีฟันปกติถึง 3 เท่า รวมถึงยังมีนวัตกรรมแบบไดนามิค ทำให้เกิดฟองขนาดเล็ก ที่สามารถช่วยผลักของเหลวผ่านระหว่างซี่ฟันได้เป็นอย่างดี หัวแปรงเป็นแบบเสียบ ใช้งานง่าย เมื่อชาร์จเต็มสามารถใช้งานได้ 14 วัน และสินค้ามีการรับประกัน 2 ปี
3. แปรงสีฟันไฟฟ้า Sparkle Sonic Triple Active SK0373 (ราคา 1,390 บาท)
แปรงสีฟันไฟฟ้า Sparkle Sonic Triple Active รุ่น SK0373 ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เพื่อช่วยขจัดคราบพลัค ด้วยความถี่หัวแปรงแบบ Sparkle ซอกซอนได้ถึง 40,000 ครั้งต่อนาที มาพร้อมกับโหมดการใช้งานถึง 3 โหมด นั่นก็คือ โหมดฟันขาว โหมดอ่อนโยนสำหรับผู้มีอาการเสียวฟัน และโหมดนวดดูแลเหงือก ป้องกันเหงือกอักเสบ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่จัดฟัน หรือผู้ต้องการมีฟันขาว และดูแลเหมือนอย่างอ่อนโยน ชาร์จแบตเตอรี่ครั้งละ 10 ชั่วโมง ใช้งานได้ประมาณ 30 วัน
4. แปรงสีฟันไฟฟ้า MI ELECTRIC/WH Mi NUN4008GL (ราคา 1,390 บาท)
อีกหนึ่งแปรงสีฟันไฟฟ้าอัจฉริยะของแบรนด์ MI Home ด้วยหัวแปรงแบบ Dupont StaClean ที่มีขนแปรงเพิ่มขึ้น 40% และมีความถี่สูงถึง 31,000 ครั้งต่อนาที รวมถึงสามารถใช้งานหัวแปรงได้ถึง 3 โหมด ได้แก่ โหมดพื้นฐาน โหมดอ่อนโยน และโหมดที่สามารถกำหนดเอง ที่สามารถตั้งค่าการใช้งานผ่าน Bluetooth ของสมาร์ตโฟนได้ อีกทั้งยังมีเซนเซอร์ถึง 6 ตัว เพื่อตรวจจับท่าทางการแปรงและพื้นที่ภายในช่องปากถึง 6 ด้าน ซึ่งการชาร์จแบตเตอรี่ 1 ครั้ง สามารถใช้งานได้นานถึง 18 วัน
5. แปรงสีฟันไฟฟ้า SOOCAS X5 (ราคา 1,990 บาท)
แปรงสีฟันไฟฟ้า SOOCAS X5 เป็นหนึ่งสินค้าในเครือแบรนด์ของ Xiaomi มั่นใจได้ถึงการออกแบบที่คุ้มค่าการใช้งาน ด้วยหัวแปรงไฟฟ้าที่มุมกว้างได้ถึง 18.5 องศา มีแรงสั่นสะเทือนอยู่ที่ 37,200 รอบต่อนาที และสามารถปรับระดับความสั่นสะเทือนได้ถึง 3 ระดับ พร้อมการแจ้งเตือนให้เปลี่ยนจุดแปรงในทุก ๆ 30 วินาที อีกทั้งสามารถปรับการใช้งานได้ถึง 4 โหมด ตั้งแต่ โหมดพื้นฐาน โหมดสำหรับคนจัดฟัน โหมดเพิ่มความขาว และโหมดดูแลเหงือก รวมถึงยังมีชิปอัจฉริยะในการควบคุมการใช้งานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนของคุณ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ แปรงสีฟันไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี 2022 ที่คลินิกทันตกรรมทันตกิจเราได้แนะนำกันในวันนี้ เพื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจของคุณ แต่ที่สำคัญการดูแลรักษาความสะอาดช่องปาก ควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ และแปรงฟันให้ถูกวิธีทั่วถึงทุกซี ที่สำคัญอย่าลืมใช้ไหมขัดฟัน เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพฟันและปัญหาภายในช่องปากที่ตามมาอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
