การจัดฟันถือเป็นวิธีรักษาฟันรูปแบบหนึ่ง เพื่อแก้ปัญหาฟันที่ส่งผลกับการดำเนินชีวิตหรือเพื่อความสวยความงาม แต่ก็มีบางรายที่ต้องพบเจอกับปัญหาที่ตามมาด้วยนั่นก็คือ อาการเหงือกร่นหลังจัดฟัน ที่มีวิธีการรักษาให้หายขาดค่อนข้างยาก หรืออาจต้องใช้วิธีการผ่าตัดโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน บทความนี้จะมาทำความเข้าใจถึงสาเหตุของอาการเหงือกร่นโดยทั่วไปและเหงือกร่นที่มีสาเหตุมาจากการจัดฟัน พร้อมวิธีป้องกัน บรรเทาไม่ให้อาการดังกล่าวเพิ่มความรุนแรงไปมากยิ่งขึ้น
Page Contents
อาการเหงือกร่นหลังจัดฟันเป็นอย่างไร
อาการเหงือกร่นทั้งในกรณีทั่วไปและเหงือกร่นที่มีสาเหตุมาจากการจัดฟัน ถือเป็นอาการอย่างหนึ่งของโรคเหงือก ในลักษณะที่เนื้อเยื่อเหงือกถูกดึงออกจากฟันทำให้เห็นตัวฟันมากยิ่งขึ้น จนรู้สึกเหมือนฟันของเรามีลักษณะยาวกว่าเดิมนั่นเอง และอาจสังเกตได้จากอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นรู้สึกเสียวฟันได้ง่ายเมื่อรับประทานของร้อนหรือของเย็น เลือดออกตามไรฟันโดยเฉพาะตอนแปรงฟัน หรือสังเกตเห็นสีฟันที่เข้มขึ้นตามแนวเหงือก โดยอาการเหงือกร่นมีหลายระดับ ทั้งระดับที่ไม่รุนแรง ปานกลาง ไปจนถึงรุนแรงมาก ซึ่งอาจส่งผลต่อฟันซี่เดียวหรือหลายซี่ก็ได้
สาเหตุหลักของปัญหาเหงือกร่น
อาการเหงือกร่นเป็นปัญหาทางทันตกรรมที่พบบ่อยและสามารถพบได้กับคนทุกวัย แต่มักพบในผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี อยู่ที่ประมาณ 88% โดยจะมีอาการเหงือกร่นที่ฟันหนึ่งซี่หรืออาจมากกว่า สาเหตุเกิดได้จากหลายปัจจัยทั้งที่สามารถควบคุมได้อย่างพฤติกรรมส่วนตัว และสาเหตุที่ไม่สามารถควบคุมได้อย่างเรื่องของพันธุกรรม
1. เหงือกร่นหลังจัดฟัน
อาการเหงือกร่นหลังจัดฟัน เกิดจากเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดฟัน และวิธีการรักษาที่จะต้องทำการดึงฟันให้เคลื่อนที่ไปจากตำแหน่งธรรมชาติหรือจากตำแหน่งเดิม ไปจนถึงแรงกด แรงบีบ ที่เกิดขึ้นเนื่องจากวิธีการในการรักษา ซึ่งสามารถนำไปสู่อาการอักเสบของเหงือกไปจนถึงความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอาการเหงือกร่นหลังจัดฟันได้นั่นเอง ดังนั้น หากคุณรู้สึกกังวลหรือเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงต่ออาการเหงือกร่นได้ง่าย ควรมองหาเทคนิคและวิธีการจัดฟันที่ดีกว่าเครื่องมือจัดฟันแบบเดิม ๆ ซึ่งคลินิกทันตกรรมทันตกิจมีทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดฟัน พร้อมเทคนิคและวิธีการในการรักษา
2. เหงือกร่นจากพฤติกรรมทั่วไป
ผู้ที่มีความเสี่ยงต่ออาการเหงือกร่นได้ง่าย อาจมีสาเหตุมาจากเคยมีประวัติเกี่ยวกับโรคเหงือกอยู่แล้ว ครอบครัวเคยมีประวัติเหงือกร่น หรือพันธุกรรมเกี่ยวกับเนื้อเยื่อเหงือกบาง และพฤติกรรมทั่วไป เช่น แปรงฟันไม่ถูกวิธี แปรงฟันแรง หรือแปรงฟันบ่อยจนเกินไป ไปจนถึงการเลือกใช้แปรงสีฟันที่แข็งจนเกินไป การกัดฟันหรือขบฟันขณะหลับ การสูบบุหรี่ เป็นต้น
วิธีป้องกันอาการเหงือกร่นหลังจัดฟัน
ต้องยอมรับว่าคนที่จัดฟันแล้วมีโอกาสเสี่ยงต่ออาการเหงือกร่นได้มากกว่าคนที่ไม่ได้จัดฟัน ซึ่งการป้องกันปัญหาเหงือกร่นหลังจัดฟัน ควรเริ่มพิจารณาตั้งแต่ก่อนจัดฟัน โดยเฉพาะในเรื่องของความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอาการเหงือกร่นอย่างการมีประวัติเกี่ยวกับโรคเหงือกหรือพันธุกรรม ไปจนถึงการเลือกคลินิกจัดฟันที่มีทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดฟัน พร้อมเทคนิคและวิธีการในการรักษาที่จะทำให้คุณมีความเสี่ยงของอาการเหงือกร่นได้น้อยลง
บ่อยครั้งสุขอนามัยในช่องปากที่ไม่ดี ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการเหงือกร่นได้ ซึ่งวิธีป้องกันหรือลดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว ทั้งผู้ที่จัดฟันและไม่ได้จัดฟันที่สำคัญ คือ การดูแลสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอด้วย เช่น
- แปรงฟันและใช้น้ำยาบ้วนปากวันละ 2 ครั้ง การแปรงฟันบ่อยเกินไปอาจเป็นการทำร้ายเหงือกได้มากยิ่งขึ้น
- ใช้ไหมขัดฟันร่วมด้วย เพื่อการทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง ไม่มีสิ่งสกปรกไปอุดตามซอกฟัน
- พบทันตแพทย์เพื่อเช็คช่องปากเป็นประจำ
ขูดหินปูนทุก 6 เดือน เพื่อป้องกันคราบพลัคสะสมบนฟัน ซึ่งเป็นอีกสาเหตุที่อาจนำไปสู่อาการเหงือกร่นได้
การรักษาเหงือกร่นขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอาจช่วยบรรเทาอาการเหงือกร่นไม่ให้รุนแรงไปกว่าเดิมได้ แต่หากเป็นกรณีเหงือกร่นในระดับที่รุนแรงมาก ก็จำเป็นที่จะต้องใช้วิธีการรักษาด้วยการผ่าตัด จึงจะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเต็มที่และเห็นผลมากที่สุด