การรักษารากฟันเด็กมีความสำคัญอย่างไร

ฟันน้ำนมเป็นฟันชุดแรกที่เมื่อระยะเวลาผ่านไป จะค่อย ๆ หลุดออกทีละซี่ และมีฟันแท้ขึ้นมาแทนที่ จึงทำให้ผู้ปกครองหลายท่านเข้าใจผิดว่า เมื่อเกิดปัญหาที่ฟันน้ำนมอย่างฟันผุมาก ๆ หรือ รากฟันน้ำนม อักเสบแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องรักษารากฟันเด็ก เพราะเมื่อถอนฟันออกไปแล้วก็มีฟันแท้ขึ้นมาแทนที่อยู่ดี ทั้งที่จริง ๆ แล้ว การรักษาฟันน้ำนมให้มีอายุใช้งานตามเวลาที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่จะส่งผลต่อแนวการขึ้นของฟันแท้มาก

ทำไมการรักษา รากฟันน้ำนม ของเด็กถึงจำเป็นกว่าที่คิด?

การรักษารากฟันเด็กนั้น จะทำในกรณีที่เด็กมีอาการฟันผุในระดับรุนแรง หรือที่เรียกว่า “ฟันทะลุถึงโพรงประสาท” จนส่งผลให้รากฟันน้ำนมเกิดการอักเสบ ซึ่งเป็นการรักษาที่จำเป็นมาก เพราะการที่รากฟันน้ำนมอักเสบจะทำให้เกิดความเจ็บปวดมาก ๆ มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อลุกลามไปยังส่วนอื่น ๆ จนถึงขั้นเสียชีวิตได้
นอกจากนี้การที่เด็กสูญเสียฟันน้ำนมก่อนกำหนดจะทำให้ฟันข้างเคียงเคลื่อนเข้าหาช่องว่าง ส่งผลให้ฟันแท้ของฟันน้ำนมซี่ที่ถอนไปไม่มีที่ขึ้น ทำให้ฟันแท้ขึ้นมาเรียงกันไม่เป็นระเบียบ เกิดปัญหาฟันซ้อน ฟันเก จนต้องเข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันในอนาคตนั่นเอง

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการรักษา รากฟันน้ำนม

ผู้ปกครองหลายคนมักเข้าใจผิดว่าการรักษารากฟันน้ำนม หรือรากฟันเด็กจะมีความยุ่งยากเหมือนกับการรักษารากฟันเทียมในผู้ใหญ่ที่จำเป็นจะต้องมีการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมก่อน แต่จริง ๆ แล้ว การรักษารากฟันเด็กนั้น ไม่ได้มีความยุ่งยากเลย ใช้ระยะเวลารักษาเพียงแค่ 1 – 2 ครั้งเท่านั้น เพียงแต่จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการถอนฟัน

วิธีการรักษารากฟันเด็กเป็นอย่างไร?

วิธีรักษารากฟันเด็กนั้น จะเริ่มจากการเอกซเรย์ฟัน (X-Ray) ประเมินอาการของฟันซี่ที่ผุ และวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสมก่อน หากมีอาการฟันผุไม่มาก ทันตแพทย์จะทำการกรอเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อออก และทำการอุดด้วยวัสดุอุดฟันปกติ

อย่างไรก็ตาม หากฟันผุลึกมาก ๆ ทันตแพทย์จะต้องทำการรักษารากฟันเด็ก โดยการกำจัดเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อออกให้หมด อุดรากฟันให้เต็มด้วยวัสดุที่มีฤทธิ์ในการต้านเชื้อ และทำครอบฟันเด็ก (Stainless Steel Crown : SSC) ที่มีลักษณะเป็นเหล็กกันสนิมสีเงิน เพื่อป้องกันไม่ให้มีเชื้อโรคเข้าไปในโพรงประสาทฟัน หรือคลองรากฟันที่รักษาไปแล้ว ซึ่งจะช่วยให้สามารถรักษาฟันน้ำนมให้ใช้งานต่อไปได้จนกว่าจะมีฟันแท้ขึ้นมาแทนที่

แนวทางการดูแลหลังเข้ารับการรักษารากฟันเด็ก

หลังจากที่รักษารากฟันเด็กเรียบร้อยแล้ว ผู้ปกครองจะต้องใส่ใจในการดูแลทำความสะอาดช่องปากอย่างมาก โดยจะต้องให้เด็กแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น เพื่อป้องกันไม่มีคราบหินปูนขึ้นมาเกาะหนาจนทำให้เกิดเหงือกอักเสบ เลือดออก หรือโรคปริทันต์ตามมา
นอกจากนี้จะต้องพาเด็กไปตรวจสุขภาพฟันและช่องปากทุก ๆ  6 เดือน หรือตามที่ทันตแพทย์แนะนำ เพื่อตรวจติดตามผลการรักษาของครอบฟันเด็กที่ใส่ไป และให้ทันตแพทย์ช่วยทำการขูดหินปูนในช่องปาก ซึ่งจะช่วยให้เด็กมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี ส่งผลให้ฟันแท้สามารถขึ้นมาได้อย่างปกตินั่นเอง

จะเห็นได้ว่า การรักษารากฟันเด็ก หรือ รากฟันน้ำนม ไม่ได้มีขั้นตอนที่ยุ่งยากอย่างที่คิด นอกจากนี้ยังมีข้อดีหลายอย่าง เช่น ช่วยลดอาการเจ็บปวด ทำให้เด็กมีฟันบดเคี้ยวได้ปกติ และไม่ส่งผลกระทบต่อการขึ้นของฟันแท้ ดังนั้นผู้ปกครองท่านใดที่บุตรหลานกำลังมีปัญหาปวดฟัน ฟันผุ ก็ควรที่จะรีบไปทำการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะจะทำให้ฟันผุลุกลามขึ้นเรื่อย ๆ จนยากที่จะทำการรักษาและจำเป็นจะต้องถอนฟันออก ซึ่งที่ศูนย์ทันตกรรมทันตกิจ เรามีทีมทันตแพทย์มากประสบการณ์ พร้อมดูแลฟันของบุตรหลานท่านด้วยความใส่ใจ สามารถเข้ามาขอรับคำปรึกษาได้เลย