หากคุณมีอาการ เจ็บเพดานปาก ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงที่รับประทานอาหาร อ้าปากกว้าง ๆ กลืนน้ำลาย หรือขณะพูด แล้วกังวลว่าอาการที่เกิดขึ้นจะอันตราย ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะศูนย์ทันตกรรมทันตกิจ (Thantakit) จะพาคุณไปรู้จักกับสาเหตุของเพดานปากบวม หรืออาการเจ็บที่เพดานปาก พร้อมแนะนำวิธีรักษาและป้องกันอย่างเหมาะสม รับรองว่าจะช่วยให้คุณรับมือกับอาการเจ็บที่เพดานปากได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน
Page Contents
รู้จักกับอาการ เจ็บเพดานปาก
อาการเจ็บเพดานปาก เป็นหนึ่งในอาการแสดงของโรคในช่องปากต่าง ๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งระดับความรุนแรงของอาการจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะไม่อันตราย และสามารถหายได้เองภายใน 2 – 3 สัปดาห์
สาเหตุของอาการ เจ็บเพดานปาก หรือเพดานปากบวม
อาการเพดานปากบวม หรือเจ็บที่เพดานปาก สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- การรับประทานของร้อนจัด หรือเย็นจัดเกินไปจนทำให้เยื่อบุในช่องปากอักเสบ
- ต่อมน้ำลายผลิตน้ำลายได้น้อยเกินไป จนทำให้ปากแห้ง เหงือกอักเสบ และเจ็บที่เพดานปาก
- เป็นแผลร้อนในในช่องปาก
- การใช้สารทำความสะอาดช่องปากที่รุนแรงเกินไป
- เกิดการระคายเคืองจากการสูบบุหรี่
- เกิดการติดเชื้อไวรัส หรือเชื้อแบคทีเรีย
- เป็นเนื้องอก หรือมะเร็งในช่องปาก
ลักษณะอาการเจ็บเพดานปากที่เป็นอันตราย
อาการเจ็บเพดานปาก หรือเพดานปากบวมนั้น ส่วนใหญ่จะไม่มีอันตราย และสามารถหายได้เอง แต่ถ้ามีอาการเจ็บ ร่วมกับมีตุ่ม หรือก้อนเนื้อที่เพดานปากก็อาจเป็นหนึ่งในสัญญาณของอาการเจ็บที่เป็นอันตรายได้ ยกตัวอย่างเช่น
- ตุ่มร้อนใน จะมีลักษณะเป็นตุ่มแข็ง ๆ ร่วมกับมีอาการบวมแดง ในบางรายอาจมีหนอง และเจ็บร่วมด้วย ส่วนใหญ่จะหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์
- ตุ่มน้ำพองที่เกิดจากภูมิคุ้มกัน จะมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใส ๆ อาจมีหลายตุ่มก็ได้ สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งบริเวณในช่องปากอย่างกระพุ้งแก้ม เพดานปาก ลำคอ รวมไปถึงส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย เช่น ใบหน้า แขน หรือขา เป็นต้น
- ตุ่มในปากจากก้อนน้ำลายเกิดรอยฉีกขาด ทำให้ต่อมน้ำลายรั่ว ส่วนใหญ่จะไม่สามารถหายได้เอง จำเป็นต้องให้ทันตแพทย์ตัดออก
- ก้อนเนื้อ อาจเป็นเนื้อดี หรือเนื้อร้ายก็ได้ สามารถขยายขนาดใหญ่ขึ้นได้เรื่อย ๆ ไม่ทำให้เกิดอาการเจ็บ โดยจะมีความเกี่ยวข้องกับประวัติการสูบบุหรี่จัด และการติดเชื้อไวรัสเอสพีวี (HPV)
สำหรับใครที่มีอาการเจ็บที่เพดานปาก ร่วมกับมีตุ่ม หรือก้อนเนื้อนั้น ควรรีบไปให้ทันตแพทย์ หรือแพทย์ตรวจวินิจฉัยลักษณะก้อนทันที ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะอาจเป็นก้อนเนื้อร้ายได้
ระยะเวลาการหายของอาการเจ็บเพดานปาก
อาการเจ็บเพดานปากที่เกิดจากสาเหตุที่ไม่เป็นอันตราย เช่น แผลร้อนใน น้ำร้อนลวกปาก หรือการระคายเคือง มักจะหายได้เองภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์ แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้น ก็อาจเกิดจากสาเหตุที่เป็นอันตรายได้ ควรรีบไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุทันที
แนวทางการรักษาอาการเจ็บเพดานปาก
แนวทางการรักษาอาการเจ็บเพดานปากก็ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเช่นกัน หากเกิดจากสาเหตุที่ไม่เป็นอันตราย เพียงแค่หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ หรือรับประทานอาหารที่กระตุ้นให้เกิดอาการ ร่วมกับการทำความสะอาดฟันและช่องปากอย่างถูกวิธี และกลั้วปากด้วยน้ำเกลือบ่อย ๆ ก็จะสามารถหายได้เอง
อย่างไรก็ตาม หากเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น การติดเชื้อไวรัส การเป็นโรค หรือภาวะที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน การตรวจพบก้อนเนื้อ วิธีการรักษาจะขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ผู้ทำการรักษาเป็นหลัก ซึ่งจะมีทั้งการรักษาด้วยการรับประทานยา และการผ่าตัด
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดเพดานปากบวมและเจ็บ
คุณสามารถป้องกันไม่ให้เกิดอาการเจ็บที่เพดานปาก หรือเพดานปากบวมได้ โดยการหลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ เช่น
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัด ร้อนจัด หรือเย็นจัด
- หลีกเลี่ยงการใช้สารทำความสะอาดฟันและช่องปากที่รุนแรงเกินไป
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ทำความสะอาดช่องปากด้วยวิธีที่เหมาะสม
- ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย อย่างน้อย 8 – 10 แก้วต่อวัน เพื่อให้ปากชุ่มชื้น ไม่แห้ง
จะเห็นได้ว่าอาการ เจ็บเพดานปาก หรือเพดานปากบวม เกิดขึ้นได้ทั้งจากสาเหตุที่ไม่เป็นอันตรายอย่าง ของร้อนลวกปาก การระคายเคืองจากสารเคมีต่าง ๆ แผลร้อนใน ปากแห้ง และสาเหตุที่เป็นอันตรายอย่างมะเร็งในช่องปาก ด้วยเหตุนี้เราจึงควรสังเกตอาการเจ็บที่เพดานปากอย่างสม่ำเสมอ หากตรวจพบว่ามีอาการเจ็บที่ผิดปกติ หรือเจ็บเรื้อรังนานเกิน 1 สัปดาห์ ก็ควรที่จะไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุตั้งแต่เนิ่น ๆ และเข้ารับการรักษาด้วยวิธีการที่เหมาะสม ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะอาจทำให้อาการรุนแรงจนส่งผลให้การรักษาทำได้ยากขึ้นได้